Peer-to-peer (P2P) คือการแลกเปลี่ยนแบ่งปันข้อมูล หรือทรัพย์สินระหว่างกัน ทุกคนในเครือข่ายจะมีความเท่าเทียมกัน และจะไม่ผ่านผู้ที่มีอำนาจหรือส่วนกลาง P2P เป็นเหมือนการกระจายอำนาจระหว่างบุคคลและกระจายออกไปเป็นกลุ่มที่ใหญ่มากขึ้นหากมีการใช้งานมากขึ้นผ่านกระบวนการนี้ โดยกระบวนการนี้ถูกใช้ในคอมพิวเตอร์และระบบเครือข่ายมาตั้งแต่เมื่อก่อนแล้วในการแบ่งปันข้อมูลระหว่างกัน
ในทางคริปโตนั้น P2P จะหมายถึงการแลกเปลี่ยนโดยตรงของสกุลเงินดิจิทัล ระหว่างแต่ละฝ่ายโดยไม่ต้องมีหน่วยงานที่เป็นส่วนกลางเข้ามาเกี่ยวข้องเลย ซึ่งนั่นจะแสดงถึงความเป็นส่วนตัวมากกว่าการทำธุรกรรมออนไลน์แบบดั้งเดิมและระบบเครือข่ายที่มีการใช้งานอย่างแพร่หลายตามเจตจำนงที่สกุลเงินคริปโตแรกเริ่มอย่าง Bitcoin นั้นต้องการ เพื่อทำให้ Bitcoin ถูกใช้งานอย่างอย่างแพร่หลายมากขึ้น
การทำธุรกรรม P2P นั้นไม่จำเป็นต้องระบุข้อมูลที่แสดงถึงตัวตนของเราที่ไม่ต้องการผ่านการประมวลผลโดยสถาบันการเงิน ทำให้มีความเป็นส่วนตัวมาก โดยกระบวนการนี้จะใช้การเข้ารหัสผ่านบล็อกเชนเพื่อให้ทั้งสองฝ่ายสามารถทำธุรกรรมได้อย่างปลอดภัยโดยไม่จำเป็นต้องพึ่งพาคนกลางซึ่งเป็นบุคคลที่สาม การทำธุรกรรม P2P นั้นโดดเด่นในเรื่องของความปลอดภัย ซึ่งรายการจะถูกบันทึกไว้ในเครือข่ายทุกแห่ง ซึ่งทำให้การปลอมแปลงข้อมูลนั้นเป็นเรื่องที่ทำได้ยากมาก
แม้การทำธุรกรรมแบบ P2P จะมีความเป็นส่วนตัวที่มาก โดยทั่วไปที่ไม่ต้องมีการระบุตัวตน ทำให้ป้องกันความเป็นส่วนตัวของทุกคนได้ โดยสามารถซื้อคริปโตด้วยเงินทั่วไปที่รัฐตราขึ้นเพื่อใช้ชำระหนี้ได้ตามกฎหมาย (Fiat money) ได้เลย แต่อย่างไรก็ตาม รัฐบาลในหลายประเทศก็ได้มีการออกกฤหมายบังคับใช้ให้เป็นการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์ภายใต้ข้อบังคับของประเทศนั้น ๆ ซึ่งรัฐบาลต้องการรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับตัวตนและการทำธุรกรรมแต่ละรายการของผู้ใช้ ซึ่งทำให้ความเป็นส่วนตัวของของมูลนั้นแทบจะไม่มีอยู่เลย
ในปัจจุบันมีการยอมรับของคริปโตที่เพิ่มมากขึ้นขึ้น แต่ก็ยังมีการใช้งานการแลกเปลี่ยนแบบรวมศูนย์อยู่มาก เช่น Binance, Coinbase และ Bitkub แต่ก็มีบางส่วนที่หันไปใช้การแลกเปลี่ยน P2P หรือที่เรียกว่า Decentralized exchanges (DEX) เพื่อความเป็นส่วนตัวที่เพิ่มมากขึ้นกันบ้างแล้ว