Vesting Period กลไกพิสูจน์ความภักดี

หากจะพูดว่าพิสูจน์ความภักดีคงจะพูดไม่ได้เต็มปาก แต่ Vesting Period นั้นก็เป็นหนึ่งในกลไกที่ช่วยรักษาเสถียรภาพของบริษัทและองค์กรที่เพิ่งเริ่มก่อตั้งเอาไว้ โดยถูกใช้งานมานานแล้วในแวดวงธุรกิจต่าง ๆ แต่หากจะพูดถึงการนำมาปรับใช้กับคริปโตนั้น ก็คงจะเป็นการนำมาปรับใช้กับการรับมือการเข้าลงทุนของนักลงทุนในช่วง Early Stage ที่เป็นการเริ่มต้นตังตัวของบริษัท

ช่วง Early Stage ของเหรียญคริปโตหรือโทเค็นใดโทเค็นหนึ่งนั้นจะเป็นการระดมทุนจากกลุ่มนักลงทุนต่างๆที่มีความสนใจในเหรียญหรือโทเค็นนั้น เช่น ICO, private หรือ seed ซึ่งจะเป็นการเปิดขายเหรียญหรือโทเค็นให้ได้จับจองล่วงหน้าก่อน ทำให้ต้นทุนที่ใช้ในการซื้อเหรียญนั้นต่ำมาก และภายหลังจากนั้น เมื่อมีการเปิดซื้อขายในตลาดแบบสาธารณะแล้วจะทำให้มีความต้องการของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้มีมูลค่าที่เพิ่มมากขึ้นตาม นักลงทุนที่ได้ลงทุนในช่วง Early Stage ส่วนใหญ่ก็คาดหวังที่จะทำกำไรในช่วงนี้ เพราะด้วยความที่มีต้นทุนที่ต่ำกว่า ประกอบกับมูลค่ามีการเพิ่มขึ้นมาเป็นอย่างมาก

สถานการณ์ดังกล่าวมานี้เองที่เจ้า Vesting Period จะเข้ามามีส่วนในการช่วยอุดช่องโหว่ที่จะป้องกันไม่ให้บริษัทที่เกิดขึ้นใหม่นั้นขาดสภาพคล่องและล้มไปก่อน โดยลักษณะจะเป็นเหมือนการทยอยให้เหรียญตามระยะเวลาที่กำหนด มีหลักการที่ว่าจะต้องทำข้อตกลงล่วงหน้ากับผู้ซื้อในช่วง Early Stage ว่าจะมีการทยอยปล่อยเหรียญออกมาแจกจ่ายให้ทะนิดทีละหน่อย โดยจะกำหนดว่าจะปล่อยให้ในแต่ละสัปดาห์ แต่ละเดือน และเป็นระยะเวลากี่ปีก็ขึ้นอยู่กับการทำข้อตกลงล่วงหน้า (ส่วนมากจะอยู่ที่ตั้งแต่ 3 ปีขึ้นไป) ซึ่งถ้าเกิดรออยู่จนครบสัญญาก็จะได้เหรียญแบบเต็มจำนวนทั้งหมดตามที่ตกลงซื้อไว้ล่วงหน้า หรือบางกรณีก็อาจจะมีการ Cliff เสริมเข้ามาด้วยซึ่งจะเป็นการกำหนดเลยว่าจะแจกจ่ายเหรียญล็อตแรกในช่วงกี่เดือน ตัวอย่างเช่น ระยะเวลา Cliff ทั้งหมด 8 เดือน ในช่วง 7 เดือนแรกนั้นก็จะไม่มีการแจกจ่ายเหรียญให้เลย แต่จะแจกจ่ายเหรียญทั้งหมดของช่วง 8 เดือนนั้นรวมกันในเดือนที่ 8 และอัตราหลังจากนั้นก็เป็นไปตามที่ทำข้อตกลงไว้

โดยสรุปแล้ว Vesting Period เป็นกลไกที่ช่วยป้องกันไม่ให้นักลงทุนที่เข้ามาลงทุนในช่วงแรกที่มีต้นทุนการลงทุนที่ต่ำทำกำไรทั้งหมดในทันที จนทำให้บริษัทเกิดการขาดสภาพคล่อง และหากมองกลับกันในมุมมองของนักลงทุนแล้วก็ควรพิจารณาถึงจุดนี้ว่าหากต้องลงทุนโดยใช้ระยะเวลานานนั้นจะสามารถยอมรับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหนก่อนตัดสินใจลงทุน