เจ๊งกันยับ NFTs GAME เปิดแนวทางรอดทั้งในมุมของผู้เล่นและนักพัฒนา

ในปัจจุบัน อุตสาหกรรมเกมในไทยเติบโตต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นเกมที่อยู่ในพีซี สมาร์ทโฟน หรือแม้กระทั่งคอนโซล และไม่ใช่แค่ในเมืองไทย โดย Simon-Kucher & Partners ได้ทำการคาดการณ์ว่าอุตสาหกรรมเกมทั่วโลกจะมีมูลค่า 1.7 แสนล้านเหรียญสหรัฐฯ และจำนวนผู้เล่นเกมจะเพิ่มขึ้นเป็น 3,000 ล้านคนในปี 2023 และการเติบโตของอุตสาหกรรมเกมที่ต่อเนื่องและมีแนวโน้มที่จะสูงขึ้นนั้น ทำให้ผู้คนบางส่วนหันมาสนใจลงทุนกับเกมออนไลน์มากขึ้น และพูดถึงการลงทุนหลาย ๆ คนอาจจะนึกถึง NFT (Non-Fungible Tokens) นั่นเอง

ก่อนที่เราจะพูดถึง NFT นั่น ผู้เขียนก็เคยเล่นเกมออนไลน์ในวัยเด็กเหมือนกัน จนตอนนี้ก็มีเพื่อนที่ลงทุนกับสินค้าในเกมออนไลน์หรือไอเทมต่าง ๆ ภายในเกม ซึ่งในบางเกมนั้นเราสามารถซื้อขายด้วยเงินจริง ๆ ได้ สมมติต้องการชุดนักเวทย์โหด ๆ ก็ต้องใช้เงินของเราในการซื้อ โดยการที่จะได้สินค้าบางอย่างก็ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ เลย บางคนอาจจะสุ่มกล่องแล้วได้สินค้ามา อาจจะมีสินค้าที่จำนวนจำกัดหรือมีโอกาสสุ่มได้แค่ 0.0001% เท่านั้น ที่กล่าวมาทั้งหมดคือกรณีที่มีสินค้าจำนวนมากกว่า 1 ชิ้นทั้งเซิร์ฟเวอร์ และต่อให้มีเพียง 1 ชิ้นทั้งเซิร์ฟเวอร์นั่นไม่ได้หมายความว่าสินค้าชิ้นนั้นจะเป็น NFT เสมอไป

แล้วอะไรบ้างล่ะ ที่เรียกว่า NFTs

(ใครรู้แล้วไปด้านล่างที่เขียนว่า >มาตรงนี้< เลย)

จริง ๆ แล้ว NFT เป็นอะไรก็ได้ที่อยู่ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัล ไม่ว่าจะเป็นงานศิลปะ รูปภาพ เพลง คลิปวิดีโอ ไอเทมเกม การ์ดสะสม การ์ตูนหรืออื่น ๆ ที่ถูกเปลี่ยนเป็น Mint หรือการเปลี่ยนให้มาอยู่ในรูปแบบสินทรัพย์ดิจิทัลเรียกว่าการ Mint โดยเราจะเป็นเจ้าของผลงานชิ้นนั้นเพียงคน ๆ เดียว และในขณะที่เราเป็นเจ้าของอยู่ สินทรัพย์ของเราจะถูกปกป้องจากบล็อกเชนต่าง ๆ เพื่อไม่ให้สามารถทำซ้ำหรือคัดลอกได้ และจะมีชิ้นเดียวในโลกตามของสิ่งนั้นที่มีอยู่จริง ๆ เช่น Ethereum chain, Binance smart chain, Solana chain, Cardano chain เป็นต้น

การทำงานของเกม NFT

เกม NFT จะมีความแตกต่างกับการถือคริปโต ตรงที่เกม NFT นั้นจะยึดตามกฏหรือกลไกของเกมนั้น ๆ ยกตัวอย่างเช่น เราสามารถสร้างตัวละครและขายน้องได้ในราคาตามที่ต้องการ โดยตัวละครของเรานั้นจะไม่ซ้ำใคร และนอกจากนี้ยังสามารถแลกเปลี่ยนไอเทมเกมในรูปแบบ NFT เพื่อเกร็งกำไรได้อีกด้วย ซึ่งถ้าเราต้องการทำการแลกเปลี่ยน NFT และใช้งานกันภายในเกม จะมีสิ่งที่เรียกว่า Smart contract เกิดขึ้น เป็นสิ่งที่นักพัฒนาเกมสร้างขึ้นมาเพื่อควบคุม NFT ที่ใช้โดยเฉพาะ

เราแล้วจะหาเงินจากเกม NFT ได้ยังไง

เราสามารถเล่นเกม NFT เพื่อหารายได้ โดยเกมประเภทนี้จะเรียกว่า play-to-earn ซึ่งเป็นรูปแบบเกมที่มีบล็อกเชนและคริปโต เข้ามาเกี่ยวข้อง โดยรายได้จะแบ่งได้เป็น 2 รูปแบบคือ NFT และ Fungible-Token หรือสกุลเงินดิจิทัลต่าง ๆ ซึ่งแต่ละเกมอาจจะมีการสร้างเหรียญเป็นของตัวเอง เช่น SAND จาก The Sandbox แต่อย่างไรก็ตามการดรอปไอเทมเป็น NFT มีโอกาสได้ยากกว่าโทเค็นเสียอีก

โดยจำนวนเงินที่ได้รับจากการเล่นเกม NFT จะขึ้นอยู่กับกลไกของเกมและความต้องการของตลาด เงินที่จะได้รับนั้นจะเกิดจากการที่ผู้เล่นรายอื่นให้ความสำคัญกับสินค้า NFT ของเรา โดยเราสามารถลงทุนได้โดยการแลกเปลี่ยนสินค้า ประมูล ทำให้สามารถเกร็งกำไรได้

มีได้ก็ต้องมีเสีย

ถ้าอ่านมาถึงจุดนี้แล้ว จะบอกให้ทุกคนใจเย็น ๆ กันก่อน ไม่ใช่ว่าทุกคนที่เล่นเกม NFT จะมีรายได้เพิ่มขึ้นนะ เพราะเราอาจเสียเงินจากการเล่นเกม NFT ก็เป็นได้ และการสูญเสียเงินนั้นไม่ได้หมายความว่าถูกหลอกเสมอไป อาจขึ้นอยู่กับปัจจัยอื่น เช่น กลไกของตลาด เนื่องจาก NFT นั้นเป็นการเกร็งกำไรและมูลค่าของมันก็ขึ้นอยู่กับตลาด ณ ขณะนั้น และพยายามรักษา NFT ของเราให้ดี ๆ ถึงแม้ว่าโอกาสที่จะสูญหายจะน้อยมากก็ตาม

วิธีป้องกันจากการเจ๊งของเกม NFT (>มาตรงนี้<)

ก่อนที่จะมาดูวิธีป้องกันจากการเจ๊งของเกม NFT เราต้องมาทำความรู้กับสิ่งที่เรียกว่า Tokenomics ซึ่งมากจาก Token + Economics โดยสิ่งนี้เป็นการนำความรู้และวิธีการทางด้านเศรษฐศาสตร์หลายแขนงมาประยุกต์ใช้กับสกุลเงินดิจิทัลหรือโทเค็นต่าง ๆ และถ้าเราได้เรียนวิชาเศรษฐศาสตร์นั้นคำศัพท์ที่น่าจะรู้จักกัน หรือได้ยินชื่อบ่อย ๆ ก็คงไม่พ้นกับคำว่า อุปสงค์ และ อุปทาน

อุปสงค์ หรือความต้องการซื้อ (Demand) ใน NFTs Game สร้างมาจาก

  • การฝากเหรียญ Staking *สร้าง Supply ในภายหลัง
  • ขาย Item บัฟการได้เหรียญ *สร้าง Supply ในภายหลัง
  • ขายตัวละคร เอาไปเล่นแล้วได้เหรียญ *สร้าง Supply ในภายหลัง
  • ราคาเหรียญที่เพิ่มขึ้น มีคนเล่นแล้วได้
  • ฯลฯ

อุปทาน หรือความต้องการขาย (Supply) ใน NFTs Game สร้างมาจาก

  • กลัวราคาตก
  • ถอนทุนคืน
  • มีเกมอื่นที่น่าสนใจกว่า
  • ขยายการลงทุนไปเกมอื่น
  • ฯลฯ

เมื่อความต้องการซื้อและขายตรงกันก็จะเป็นตัวกำหนดราคาเหรียญนั้น ๆ จะเห็นได้ว่าเกม NFT ส่วนมากจะเจ๊งกันเพราะมีความต้องการขายมากเกินไป และมีอุปสงค์ที่ทำให้เกิดความต้องการขายในภายหลังอีก

มุมมองของนักพัฒนาเกม

ถ้านักพัฒนาเกมสามารถคุม Tokenomics ภายในเกมได้ เช่น ถ้าสมมติเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันจนทำให้เกิดเงินเฟ้อ (มีเหรียญออกมามาก) ภายในเกม ก็ควรปรับราคา NFT ทั้งตัวละครและไอเทม เรื่อย ๆ ให้สมดุลกับกลไกตลาด เพราะถ้าหากไม่ได้ขึ้นราคาอาจทำให้สินค้านั้นไม่มีมูลค่าเสมือนกลายเป็นของฟรี หรือในกรณีที่เหรียญถูกผลิตออกมามากเกินไป แต่ไม่ได้นำไปใช้ทำอย่างอื่น ไม่ได้ไปใช้ประโยชน์กับโลกใบนี้ ซึ่งทุกคนก็ต่างหวังกำไร ขายเอาทุนคืนกันหมด การที่ทำให้เกม NFT เชื่อมกับโลกความเป็นจริง เช่น ลงทุนปลูกผักแล้วมีการปลูกจริงไปด้วย ก็จะทำให้มันเป็นสิ่งที่จับต้องได้มากขึ้น หรือ มีการเอารายได้จากการขายไปลงทุนต่อในโลกจริงเช่นซื้อหุ้น และบริหารนำเงินมาซื้อเหรียญในเกมกลับเพื่อลดอุปทานก็ได้

มุมมองของผู้เล่น

ในส่วนของผู้เล่นก็ควรศึกษาวิธีการเล่น และเศรษฐศาสตร์ของเหรียญในแต่ละเกม ว่าเขาปล่อยเหรียญออกมามากหรือน้อย และแนวทางการจัดการเหรียญที่ออกมาสู่ตลาด จะได้ไหวตัวทันให้ไม่เจ๊งไปพร้อมกับเกม

ทั้งนี้การลงทุนทุกประเภทมีความเสี่ยง ควรศึกษาให้ดีก่อนลงทุน แต่ถ้าอยากลดความเสี่ยงในการลงทุนคริปโต ก็สามารถใช้ FOMO Score เป็นเครื่องมือที่ทางเราพัฒนาขึ้นมาเอง โดยมีไว้เพื่อประเมินความเสี่ยงและผลตอบแทนย้อนหลัง มี 4 ปัจจัยเข้ามาเกี่ยวข้องคือ ผลตอบแทนในอดีต ปริมาณการซื้อขาย ผลตอบแทนจากการฝากเหรียญ และราคาในอดีต

อ้างอิง

YGG SEA เจาะ “ตลาดเกมเมืองไทย” มูลค่า 3 หมื่นล้าน

Play to Earn คืออะไร? เมื่อเทคโนโลยีคริปโตเข้ามามีบทบาทในวงการเกม

What Are NFT Games and How Do They Work?